ซึ่งปัจจุบันขนาดพื้นที่ฮาร์ดดิส 80GB หรือ 160GB ก็แทบจะไม่พอใช้กัน เก็บกันทั้งหนัง เกมส์ ซีรีย์(เกาหลี) และอื่นๆ อีกมากมาย หลายคนจึงเริ่มมองหาฮาร์ดดิสตัวใหม่เข้ามาเพิ่ม ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีหลากหลายรูปแบบในเลือก ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์แบบต่อภายใน ฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอก และอีกทางเลือกหนึ่งคือ NAS หรือ Network Attached Storage ซึ่งมองแค่ภายนอกมันก็คล้ายฮาร์ดดิสก์ภายนอกตัวหนึ่ง จะว่าคล้ายก็ไม่ถูกนัก เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นฮาร์ดดิสก์ต่อภายนอกตัวหนึ่งแต่มันมีคุณสมบัติเพิ่มขึ้นมามากกว่า เดิมนัก
NAS หรือ Network Attached Storage นั้น เป็นอุปกรณ์ที่มีระบบต่างๆ เพิ่มเข้ามาจากเดิมที่มีแค่สายยูเอสบี หรือไฟร์ไวร์ ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่ NAS มีสายแลนหรืออาจเป็นสัญญาณไวไฟเป็นตัวเชื่อมต่อ ประโยชน์คือสามารถใช้งานร่วมกันหลายๆ คนได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้เพื่อแชร์ข้อมูล (เปลืองไฟ) เปิดแค่ NAS ทิ้งไว้เท่านั้น ซึ่งประหยัดไฟกว่ามาก
NAS นั้นเปรียบเสมือนกับว่าเป็นระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ มีการเข้าถึงทำงานแบบไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์โดยไคลเอ็นต์ หรือเวิร์กสเตชันผ่านทางเน็ตเวิร์กโพรโตคอลเช่น TCP/IP และผ่านทางแอพพลิเคชันเช่น NFS (Network File System) หรือ CIFS (Common Internet File System) ทำให้ไคลเอ็นต์ที่เชื่อมต่ออยู่บนระบบเน็ตเวิร์กสามารถแลกเปลี่ยนไฟล์กันได้ และการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการเชื่อมต่อซึ่งมีอยู่ภายในไคลเอ็นต์อยู่แล้ว โดยโครงสร้างของ NAS นั้นเน้นการให้บริการด้านไฟล์ ดังนั้นจึงช่วยให้การจัดการเข้าถึงไฟล์สามารถทำได้ด้วยความรวดเร็ว และนอกจากนี้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้ NAS แบ็กอัพไดเรกทอรีหรือฮาร์ดดิสก์ของไคลเอ็นต์ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างหนึ่งที่ช่วยในการสำรองข้อมูลที่ลดความเสี่ยงใน การสูญเสียข้อมูลให้น้อยลง
NAS นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับการแชร์ไฟล์ เช่น NFS ในยูนิกซ์ หรือ CIFS ในวินโดวส์ เอ็นที โดยสามารถส่งไฟล์ข้อมูลไปให้กับหลายๆ ไคลเอ็นต์ โดยที่มีการป้องกันในเรื่องความปลอดภัยได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของแอพพลิเคชันที่ควรใช้ NAS เพื่อประสิทธิภาพการทำงานมี 2 แอพพลิเคชันคือ ระบบไดเรกทอรี่และเว็บเซิร์ฟเวอร์ โดยทั้งสองแอพพลิเคชันนี้มีการดึงข้อมูลเพื่อนำไปใช้ แจกจ่าย หรือไปสร้างเว็บเพจนั้นเองและสำหรับในองค์กรที่มีการใช้ฐานข้อมูล มีการเข้าถึงข้อมูลแบบอ่านอย่างเดียว (จำกัดสิทธิ์) มีผู้ใช้งานน้อย ระบบ NAS จะสามารถช่วยการลดค่าใช้จ่ายขององค์กรแบบนี้ลงได้เช่นกัน
นอกจากคุณสมบัติหลัก ๆที่กล่าวมาแล้ว NAS กับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้มันมีคุณสมบัติต่าง ๆ มากมายซึ่งสามารถ เช่น
- เป็น Multimedia Server สำหรับเก็บและแชร์ไฟล์เพลง รูปถ่าย หนัง ใช้งานร่วมกับ DMA รวมทั้งเครื่อง PS3 และ Xbox360
- จัดการระบบและเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
- ใช้เป็น print server, web server และ mail server สำหรับสำนักงานได้
- USB copy
- USB Backup เพื่อใช้สำรองข้อมูลร่วมกับ External Hard
- Download ข้อมูลได้โดยไม่ต้องเปิดคอมพิวเตอร์ รองรับ BitTorrent, FTP, HTTP, NZB, และ eMule
- รองรับการทำงานแบบ Standard, JBOD, RAID 0, RAID 1
- รองรับการใช้งานได้หลาย ๆผู้ใช้งานพร้อมกัน
ที่มา blognone.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น